Fic Tsurune | MISS YOU ― (Fujiwara Shuu x Narumiya Minato)


MISS YOU




“あなたが私がどれほどあなたが恋しいか知っていますか?”
รู้หรือเปล่า― ว่าฉันคิดถึงนายมากแค่ไหน ?





“เป็นอะไรรึเปล่าฟุจิวาระ วันนี้นายดูเหม่อๆนะ ?”

มือเรียวที่กำลังเก็บสวมชุดนักเรียนแทนที่ชุดฮากามะสีทึบชะงักไป เขาเบือนสายตาไปมองรุ่นพี่ปีสามที่ยืนส่งยิ้มบางๆมาให้เขาด้วยสายตางุนงง

“รุ่นพี่หมายความว่ายังไงครับ ?”

อีกฝ่ายไม่ตอบ ผูกเนกไทด์ให้เรียบร้อยก่อนจะยกยิ้มบาง

“หมายถึงเรื่องเด็กที่เคยอยู่โรงเรียนเราตอนม.ต้นไง”

นัยน์ตาหรี่ลง ไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อ

“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ตั้งแต่แข่งตอนนั้นจบ นายก็เอาแต่มองเขาอยู่ตลอดเลยนี่นา” อีกฝ่ายว่าก่อนจะปิดตู้ล็อกเกอร์ เสยผมยุ่งฟูของตัวเองก่อนจะพูดต่อ “อยากคุยกับนารุมิยะใช่มั้ยล่ะ ?”

เขาเบือนหน้าหนี ไม่ตอบคำถามของอีกฝ่าย

แต่ในใจเขาพยักหน้าเห็นด้วยเงียบๆ

หลังจากการแข่งระดับเขตที่โรงเรียนเขาพ่ายแพ้ให้กับโรงเรียนคาเซไม เขาก็ไม่ได้เจอกับอีกฝ่ายเลย

ถึงพวกเขาจะได้คุยกันบ้าง― แต่มันก็แค่ช่วงก่อนแข่ง ไม่ได้คุยจริงจังอะไรซึ่งกันและกัน แถมยังเป็นการคุยที่เป็นการกระตุ้นให้อีกฝ่ายหายจากอาการตื่นเป้าอีก

พอแข่งเสร็จแล้วเขาก็ตั้งใจจะเข้าไปคุย แต่อีกฝ่ายก็หายไปแล้ว

“อยากเจอใช่มั้ยล่ะ ?”

เขาชะงัก หลุดออกจากภวังค์ความคิด มองรุ่นพี่ที่เก็บของเสร็จเรียบร้อยเตรียมตัวกลับบ้านของตัวเอง

“ถ้าอยากเจอก็ไปหา”

ไปหางั้นเหรอ ?

“ถ้าอยู่ที่นี่ไป นายก็ไม่เจอเขาหรอกนะ”

―นั่นสินะ

____________________

“กลับบ้านดีๆนะทั้งสองคน ! เจอกันพรุ่งนี้ !”

เขายิ้มตอบ ขานรับในลำคอก่อนจะโบกมือลาเพื่อนร่วมทีมอีกสามคนที่เดินแยกไปอีกทาง

มือเรียวกำชับจักรยานในมือ เขาหันไปหาเพื่อนสนิทสมัยเด็กควบตำแหน่งเพื่อนร่วมชั้นรวมไปถึงเพื่อนข้างบ้านข้างๆ เอ่ยถามคำถามกิจวัตรประจำวันตามปรกติ

“นายคิดว่าวันนี้ฉันยิงเป็นไงบ้าง ?”

“ก็ยิงได้ดีกว่าเดิมเยอะเลย”

―แค่นั้น ไม่มีอะไรไปมากกว่านี้

พวกเขาชอบบรรยากาศเงียบสงบ มีเพียงสายลมและเสียงสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆตามข้างทางเท่านั้น เขาชอบบรรยากาศแบบนี้

เพราะมันทำให้นึกถึงใครบางคน

ขาสองข้างชะงัก คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันราวกับนึกอะไรได้

“จะว่าไป..”

“หืม ? มีอะไรรึเปล่ามินาโตะ ?”

“ลืมไปว่าวันนี้พ่อไม่กลับบ้านเพราะมีงานต่างจังหวัด ยังไม่ได้ซื้อของเข้าตู้เย็นเลย”

“ให้ฉันไปช่วยมั้ย ?”

เขาส่ายหน้า หันจักรยานไปอีกทางก่อนจะโบกมือลา

“อื้อๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันไปเอง นายรีบกลับบ้านเถอะเซย์ยะ”

“อ่า― ถ้านายว่าอย่างนั้นฉันก็โอเค…”

เขาถีบจักรยานไปอีกทาง ลาเพื่อนสนิทก่อนจะมุ่งหน้าไปซูเปอร์มาเก็ต

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมง ท้องฟ้ายามเย็นอาบไล้แสงอาทิตย์ก็ค่อยๆลาลับ มีเพียงหมู่เมฆสีทมึนที่สะท้อนแสงไฟ บ่งบอกเป็นสัญญาณว่าอีกไม่นานราตรีจะคืบคลานเข้ามาแทนที่

เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า สีส้มของแสงอาทิตย์คาบเกี่ยวกับท้องฟ้าสีม่วงราตรีทำให้เขานึกถึงดวงเนตรของใครบางคน

ใครบางคน― ที่หลังจากการแข่งแล้วเขาไม่ได้เจอเลย

เขาปั่นจักรยานไปเรื่อยๆ ผ่านบ้านเรือนของผู้คนมากมายก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าบ้านของตัวเอง

คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันเมื่อหน้าบ้านของเขาที่ควรจะเงียบสงบเพราะไม่มีใครอยู่กลับมีเงาทมึนของใครบางคนยืนอยู่

เซย์ยะหรอ ? ไม่หรอก บ้านตรงข้ามยังเปิดไฟอยู่เลย

แล้วใครล่ะ ?

เขาชะลอรถจักรยาน ลุกออกจากเบาะก่อนจะค่อยๆเข็นไปอย่างเชื่องช้า หรี่ตามองลงอย่างไม่ไว้วางใจ

เรือนผมสีน้ำตาลอมเขียวที่สะท้อนแสงจากเสาไฟที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเป็นสิ่งแรกที่เขาเห็น ก่อนจะตามมาด้วยดวงเนตรสีอเมทิตส์คู่สวยที่เบือนสบมายามได้ยินเสียงเสียดสีกันของโซ่จักรยาน

เขาเบิกตากว้าง ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นอีกฝ่ายยืนอยู่ตรงหน้า

ในระยะห่างที่ใกล้แค่เอื้อม

ขอฉันเข้าไปหน่อยได้มั้ย ? มินาโตะ

____________________

มินาโตะวางถุงใส่อาหารจากซูเปอร์มาเก็ตไว้ในครัว ดวงตาเหลือบมองคนที่นั่งอยู่บนเบาะในห้องรับแขกด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยเชื่อสายตาตัวเองเท่าไหร่

―แน่ล่ะ ในเมื่อเขากับอีกฝ่ายแทบไม่ได้เจอกันเลยนี่นา

จู่ๆก็มาเห็นยืนอยู่หน้าบ้านตัวเองซะงั้น ไม่ให้ตกใจก็คงทำไม่ได้

“เอ่อ― นี่”

เพื่อไม่ให้บรรยากาศเงียบสงัดจนเกินไป มินาโตะเดินออกมาจากครัว ร่างโปร่งสวมผ้ากันเปื้อน ดวงเนตรสีมรกตเหลือบมองอดีตเพื่อนร่วมชั้นที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงด้วยแววตาวิตกเล็กน้อย

“หืม ? มีอะไรเหรอมินาโตะ”

“นายกินข้าวเย็นมารึยัง ?”

ดวงเนตรสีอเมทิตส์ช้อนขึ้นมามอง เขาลากสายตาผ่านร่างกายบางใต้เสื้อผ้าก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้านิ่งของอดีตเพื่อนร่วมทีม

“ยัง”

ผอมลง― รึเปล่านะ ?

“งั้น― เดี๋ยวฉันทำให้กินนะ ถ้าหิวเดินไปหยิบขนมกินก่อนก็ได้ รอแป๊บนึง” ร่างโปร่งว่าก่อนจะหายไปในครัว เขาพยักหน้ารับเงียบๆ กวาดสายตามองบ้านของอีกฝ่ายที่เขาไม่ได้มาเยี่ยมเสียนาน

ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด เฟอร์นิเจอร์ยังคงเหมือนเดิมอาจจะมีแค่บางส่วนที่เปลี่ยนไป นอกนั้นก็ยังคงเหมือนเดิมเมื่อนานมาแล้ว

เหมือนสมัยที่เขากับอีกฝ่ายยังอยู่โรงเรียนเดียวกัน

นึกถึงเมื่อก่อนเลย―

ผ่านไปสักพักกลิ่นอาหารหอมฉุยก็ลอยมาพร้อมกับร่างโปร่งที่ยกอาหารเย็นมาวางไว้บนโต๊ะกินข้าวตัวต่ำ นัยน์ตาสีมรกตเหลือบมองร่างตรงหน้า นั่งลงฝั่งตรงข้ามก่อนจะจัดแจงอาหารของพวกเขาสองคน

“ได้แล้ว”

“ขอบใจ”

“แล้วที่บ้านไม่ว่าเหรอที่นายมาหาฉันน่ะ” ประโยคคำถามถูกเอ่ยขึ้นมา เขาที่กำลังคีบข้าวสวยเข้าปากชะงักก่อนจะส่ายหน้า

“บอกว่ามาหานาย― เขาก็ไม่ว่าแล้ว”

“อ่า― งั้นเหรอ”

แล้วบทสนทนาก็หยุดอยู่ตรงนั้น

เขานั่งกินข้าวไปเงียบๆ ลอบมองร่างโปร่งบางของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ตรงข้าม ดวงตาเรียวสีมรกตของอีกฝ่ายหลุบต่ำ ทานอาหารของตัวเองไปเงียบๆโดยไม่พูดอะไร

มินาโตะยังคงเหมือนเดิม เหมือนกับเมื่อก่อน

แสดงความรู้สึกของตัวเองไม่เก่ง

เขาเองก็เช่นกัน

หลังจากทานข้าวเย็นที่เจ้าของบ้านทำให้เขาเสร็จ อีกฝ่ายก็พาเขาขึ้นมานั่งที่ห้องของตัวเอง มือเรียวบางของมินาโตะดันประตูก่อนจะวางกระเป๋านักเรียนลงแล้วผายมือไปในห้อง

“นั่งได้ตามสบายเลยนะ”

เขาพยักหน้ารับ เดินไปนั่งบนเตียงของอีกฝ่ายที่เมื่อก่อนเขามานั่งเป็นประจำ ผ้าปูที่นอนเปลี่ยนไปแสดงว่าอันเก่าพังไปแล้วสินะ

เขามองตามร่างโปร่งบางที่เดินไปจัดแจงของบนโต๊ะ มองอีกฝ่ายที่ก้มเก็บของที่ร่วงลงมาหลังจากมือบางปัดไปโดน มองอีกฝ่ายที่วางการบ้านไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยตามนิสัยของเจ้าตัว

เขามองอยู่อย่างนั้น มองอิริยาบทที่เป็นธรรมชาติของร่างโปร่งตรงหน้าจนเขาไม่รู้ตัวเลยสักนิด―

―ว่าอีกฝ่ายก็แอบมองเขาอยู่เช่นกัน

“นี่― ชู..”

เขาหลุดจากภวังค์ หันไปมองมินาโตะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน

ดวงตาของพวกเขาสบกันท่ามกลางความเงียบ

นัยน์ตาสีมรกตของอีกฝ่ายยังคงสวยงามเสมอ เหมือนครั้งวันวาน

“มีอะไรเหรอ ?”

“ทำไม― นายถึงมาหาฉันล่ะ ?”

เขาเงียบแทนตอบคำถามของอีกฝ่าย ไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากตอบ แต่เพราะเขาไม่รู้

เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน― ว่าเขามาหาอีกฝ่ายทำไม

อาจจะมีเหตุผล แต่เป็นเหตุผลที่เขาไม่คิดว่ามันจะหลุดออกมาจากคนอย่างเขา

มินาโตะที่รอคำตอบจากอีกฝ่ายถอนหายใจออกมา เอาเถอะ อย่างน้อยร่างโปร่งก็รู้ว่าชูไม่ใช่คนที่พูดมาก คิดอะไรหรือรู้สึกอะไร ชูไม่ใช่คนที่พูดความรู้สึกของตัวเองออกมาอยู่แล้ว

―หวังอะไรอยู่กันแน่ ?

“ถ้างั้น― ฉันไปอาบน้ำก่อนนะ” มินาโตะลุกขึ้นยืน เตรียมตัวจะไปทำความสะอาดร่างกายอย่างที่ตัวว่า แต่ไม่ทันที่มือเรียวจะได้คว้าผ้าเช็ดตัว

เสียงทุ้มของชูก็เรียกเอาไว้

“เดี๋ยว”

ชูเงยหน้าขึ้นมา ดวงเนตรสีอเมทิตส์สั่นไหวชั่ววินาทีก่อนจะกลับมาเป็นอย่างเดิม

“...มานี่หน่อย”

มินาโตะเลิกคิ้ว เดินย้อนกลับมาคนบนเตียงด้วยสีหน้างุนงง

“มีอะไร―”

เอวคอดถูกคว้าโดยมือหนาที่จับธนูมานับไม่ถ้วนอย่างไม่ทันตั้งตัว เสียงร้องหลุดหายไปเมื่อใบหน้าของอดีตเพื่อนร่วมทีมวางอยู่บนไหล่

มินาโตะเบิกตากว้าง ไม่มีแม้แต่เสียงร้องแห่งความตกใจ

เขาโดนอีกฝ่ายดึงลงมานั่งตัก แผ่นหลังชนอยู่กับแผงอก แขนเรียวยาวของชูคล้องอยู่บนเอวเขา ใบหน้านิ่งเรียบที่ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกซบอยู่ที่ไหล่ของเขา

เขา― กำลังถูกชูกอด

พลันใบหน้าที่เรียบนิ่งมาตลอดก็ร้อนขึ้นมาเสียดื้อๆ

―นี่มันเรื่องอะไรกัน

ชูกอดเขาทำไม ?

“อย่าพึ่งไป―”

“ชู―”







...คิดถึง







คำสั้นๆที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นไหวในชั่ววินาที คำสั้นๆที่ทำให้ใบหน้านิ่งเรียบของเขาร้อนและแดงขึ้นจนไม่อาจห้ามได้

ลมหายใจร้อนของชูรดอยู่ข้างใบหู เขารู้ว่าชูไม่ได้ตั้งใจ― หรือว่าตั้งใจนะ ?

ให้ตายสิ― เขาไม่รู้อะไรทั้งนั้น

เขารู้อยู่แค่เรื่องเดียว หน้าเขาต้องแดงมากแน่ๆ

เขาเม้มริมฝีปากแน่น ไม่ได้ดิ้นหนีอีกฝ่าย ราวกับตัวเองเป็นตุ๊กตาหมีให้อีกฝ่ายกอดไปเสียอย่างนั้น

เพื่อนที่ไหน― เขากอดท่านี้กัน

“ชู…”

ฉันคิดถึงนาย

ไม่ไหว

ฉันคิดถึงอ้อมกอดของนาย

เขาไม่ไหว

ฉันคิดถึงธนูของนาย

เขาว่า― เขากำลังจะตาย

ใบหน้าของเขาร้อนฉ่า รู้สึกในหัวตื้อไปหมด ไม่มีความคิดอะไรนอกเสียจากความรู้สึกร้อนระอุบนใบหูพร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคอของอีกฝ่าย

เขาโดนชูแกล้งอยู่รึไง

“หน้าแดงหมดแล้ว”

“ไม่ตลกนะชู..”

ชูหัวเราะในลำคอเมื่อเขาบอกไปแบบนั้น อีกฝ่ายกระชับอ้อมแขนแน่น ไม่ยอมปล่อยให้เขาออกไปจากอีกฝ่ายได้ง่ายๆ

ไม่ยอมปล่อยให้เขาหนีออกมาเหมือนเมื่อก่อน

วันที่เขา― ทิ้งชูไปพร้อมกับธนู

“ฉันคิดถึงนายจริงๆ…”

มินาโตะเม้มริมฝีปาก เบือนหน้าหนีริมฝีปากร้อนที่กระซิบอยู่ข้างใบหู

น้ำเสียงของชูเรียบนิ่ง แต่กลับแฝงไปด้วยความตัดพ้อ



“―แล้วนายคิดถึงฉันบ้างหรือเปล่า ?



ช่วงเวลาที่มินาโตะหายไป วันที่มินาโตะเลิกเล่นธนู มันทำให้เขารู้สึกเหมือนส่วนหนึ่งของชีวิตหายไป

ส่วนที่เคยเติมเต็มเขามาตลอด

ชั่วขณะนั้นเขาไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร เสียใจ ? ดีใจ ? ผิดหวัง ? หรืออะไรนอกเหนือจากนั้น

เขาไม่รู้ รู้แค่ว่าเขาไม่อยากเก็บช่วงเวลาแบบนั้นไว้ในความทรงจำมากที่สุด

ช่วงเวลาที่ไม่มีมินาโตะ― มันมืดเสียจนเขามองอะไรไม่เห็น

ความเงียบทำให้เขาเม้มริมฝีปาก ซุกหน้าลงกับแผ่นหลังบาง กลิ่นชมพูที่อีกฝ่ายใช้เหมือนสมัยวันวานทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ในอดีต

เขากระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น

เขากำลัง― คาดหวังอะไรอยู่รึเปล่า ?

ลมหายใจของอีกฝ่ายสะดุดเมื่อมือหนาสัมผัสรอยแผลผ่านเนื้อผ้า ความรู้สึกแผ่วเบาทำให้ในใจร้อนระอุ

มินาโตะหลุบตาต่ำ ดวงเนตรสีมรกตสั่นไหวต่างจากทุกครั้ง

เขาไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร แต่มันอาจจะเป็นคำตอบของคำถามอีกฝ่าย―









“...คิดถึงสิ









มินาโตะไม่รู้ว่าตัวเองตอบถูกหรือไม่

เขารู้แค่ว่าในใจของเขามันโล่งมากกว่าเดิม

เหมือนได้พูดความรู้สึกออกไป

บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงแค่เสียงลมหายใจที่ขาดห้วงของร่างบนตัก

ได้ยินดังนั้นชูจึงกระชับอ้อมกอดแน่น ซุกหน้าลงบนบ่าเล็กก่อนจะกระซิบด้วยน้ำเสียงนุ้มทุ้มที่ทำให้ใบหน้าแดงวาบ

...ดีแล้ว

ดีแล้วที่เขาไม่ได้คิดไปเองคนเดียว

ดีแล้ว― ที่เขามาที่นี่

“มินาโตะ”

ร่างโปร่งหันไปตามเสียงเรียก ดวงเนตรสีอเมทิตส์ที่อยู่ในระยะประชิดสุกสว่างราวกับมีดวงดาวมากมายประดับในนั้น

ลมหายใจที่รดรินอยู่ปลายจมูกพร้อมกับใบหน้าของอดีตเพื่อนร่วมทีมทำให้เขาขยับไปไหนไม่ได้

ไม่มีแม้แต่แรงจะขัดขืน

แล้วเขารู้― ว่าการที่เขาอยู่นิ่งๆ

มันจะทำให้อีกฝ่ายทำอะไรได้ง่ายขึ้น

ริมฝีปากบางเฉียบทาบทับลงมา ไม่ได้รุนแรงบดเบียด แต่เป็นเพียงทาบมาอย่างอ่อนโยนเท่านั้น

ไม่ได้รุกล้ำ แผ่วเบาราวกับขนนก

ละเลียดชิมความอ่อนหวานอย่างเชื่องช้า

มินาโตะไม่ได้ผลักออก กลับกันดวงเนตรที่เบิกกว้างด้วยความตกใจในคราแรกค่อยปรือหลับลง

ยอมรับสัมผัสหวานล้ำและงดงามแต่โดยดี

เขายอมรับ― ว่าเขาไม่รู้ว่าตัวเองควรรู้สึกอย่างไร

แต่ถ้าถามว่าเขาชอบหรือไม่― เขาจะไม่ปฏิเสธ

เขาไม่เคยปฏิเสธชูได้เลยสักครั้ง

ริมฝีปากถอนออกไปอย่างอ้อยอิ่ง ดวงเนตรลึกลับราวกับมหาสมุทรฉุดรั้งเขาไม่ให้หายไปไหนอีก

“คืนนี้― ฉันค้างที่นี่นะ”

อือ ได้สิ”

บอกแล้ว― ว่าเขาปฏิเสธอีกฝ่ายไม่ได้เลย





ฉัน― คิดถึงนายเหมือนกัน






แต่งมาจากความมโนความรู้สึกของทั้งสองตัวละครล้วนๆเลยค่ะ555
เราคิดว่าพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้เจอกันนาน อย่างน้อยก็ต้องคิดถึงกันแน่ๆ
ไหนจะรวมไปถึงคำพูดชวนจิ้นของชูในเรื่องอีก ไม่ใช่คิดก็คงไม่ได้
ผลเลยออกมาเป็นชื่อเรื่อง 'Miss you' นั่นเองค่ะ !

สุดท้ายนี้ก็ขอบคุณค่า

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Fic Bleach | ENCHATED ― (Abarai Renji x Kuchigi Byakuya / RenBya)